วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

การเล่นกับพัฒนาการเด็กปฐมวัย (Free Play)

ปฐมวัยเป็น วัยที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงในพัฒนาการด้านต่าง ๆ อย่างรวดเร็วของเด็ก นั่นเป็นผลมาจากการพัฒนาของสมองซึ่งจะมีการพัฒนาสูงสุดในวัยนี้ สมองมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องก่อนเกิดจนสู่วัยผู้ใหญ่ เปรียบเสมือนการสร้างบ้านหากรากฐานมั่นคงแล้วบ้านก็มีแนวโน้มแข็งแรงในเด็กปฐมวัยก็เช่นกัน หากสมองมีการเจริญเติบโต มีการสร้างเครือข่ายเป็นอย่างดี เมื่อเติบโตขึ้นก็มีโอกาสที่จะส่งผลดีต่อพัฒนาการในวัยต่อมา แต่ตรงข้ามหากเด็กไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างดี โอกาสที่จะก่อปัญหาต่อพัฒนาการทุกด้านของเด็กก็จะเป็นไปได้สูง
คุณรู้หรือไม่ว่า “สมองของเด็กมีการทำงานสูงสุดขณะที่เด็กเล่น”
นั่นเป็นสภาวะที่สมองของเด็กพร้อมที่จะเรียนรู้ เนื่องจากสมองไม่ตึงเครียดแต่มีภาวะตื่นตัวมีแรงจูงใจและรู้สึกดีดังนั้นหากผู้ปกครองและผู้ดูแลสนับสนุนการเล่นในเด็กปฐมวัยอย่างเหมาะสมแล้ว เชื่อได้ว่าเด็กจะเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพรอบด้านได้ในอนาคต
อย่างไร? ถึงเรียกว่า “การเล่น”
องค์ประกอบที่เข้าข่าย “การเล่น” มีอยู่ 7 อย่างด้วยกัน คือ
1. เล่นโดย ไม่มีเป้าหมาย เด็กเล่นโดยไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจน ไม่ได้ตั้งใจเล่นเพื่อให้พ่อแม่ชื่นชม ไม่ได้เล่นเพื่อจะได้ขนมหรือเงินทอง แต่มีเป้าหมายในตัวของมันเองคือเป้าหมายที่จะเล่น
2. เล่นโดย เต็มใจ เด็กเล่นด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่เป็นเพราะหน้าที่หรือถูกบังคับ
3. เล่นแบบ สนุก การเล่นทำให้เด็กรู้สึกดี ตื่นเต้น ช่วยทำให้คลายความเบื่อ เหงา
4. เล่นโดย ปราศจากกาลเวลา เมื่อเข้าไปสู่การเล่นเต็มที่แล้ว เด็กจะไม่คำนึงถึงเวลา เด็กอาจเล่นไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่ตระหนักว่านานเท่าไหร่แล้ว
5. เล่นโดย ปราศจากตัวตน เมื่อเล่นแล้วเด็กมักไม่ได้คำนึงว่าตนเองจะดูดีหรือดูงุ่มง่าม ไม่เข้าท่า เด็กจะไม่กังวลถึงภาพลักษณ์ของตนเอง ในโลกจินตนาการเด็กจึงอาจเป็นโน่นเป็นนี่ได้โดยง่าย
6. การเล่น เกิดขึ้นทันที หรือด้นสด เด็กสามารถปรับเปลี่ยน ลื่นไหลตามความคิดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้ ในโลกของการเล่นจึงมีความยืดหยุ่นสูงและเกิดสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นได้ตลอดเวลา
7. เล่นโดยมี ความต้องการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเล่นมีความสนุก ตื่นเต้น เด็กจึงมีความปรารถนาที่จะเล่นไปเรื่อย ๆ หากเกิดความน่าเบื่อหรืออุปสรรคขึ้น เด็กก็สามารถหาทางปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคนั้น ๆ ให้การเล่นดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
จากองค์ประกอบของการเล่นทั้ง 7 ประการข้างต้น หากกิจกรรมใดไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ กิจกรรมนั้นก็ไม่เข้าข่ายการเล่น เช่น แม่ให้ลูกร้อยลูกปัดเพื่อฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก หรือการเล่นงูไต่บันใด ตามคุณสมบัติของการเล่นขั้นต้นจึงไม่ถือเป็นการเล่น บางครั้งการวิ่งไล่จับเป็นการเล่นแต่บางครั้งไม่เป็นการเล่น นั่นขึ้นกับว่าในแต่ละครั้งความรู้สึกหรือสภาวะทางจิตใจเป็นอย่างไร การเล่นในองค์ประกอบทั้ง 7 ประการนี้ บางท่านจึงเรียกว่า “การเล่นอย่างอิสระ” หรือ Free Play แทน เพื่อไม่ให้สับสนกับการเล่นทั่วไป ในที่นี้หากกล่าวถึงการเล่นหรือการเล่นอย่างอิสระให้ถือเป็นเรื่องเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น