ผู้ปกครองต้องเข้าใจว่า สำหรับเด็กปฐมวัยแล้ว ผู้ใหญ่ควรมุ่งให้ความสนใจไปที่กระบวนการการคิดสร้างสรรค์ให้มากกว่าผลงาน การที่คนเราตัดสินใจที่จะระบายแต้มสี ปั้น เขียน พูด เล่น และคิดนั้นคือกระบวนการสำคัญของการคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างสร้างสรรค์นั้น สามารถนำมาใช้ได้เกือบในทุกๆด้านของชีวิตเรา ตั้งแต่วิธีการช่วยให้เด็กหยุดร้องไห้จนถึงวิธีการที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการค้นพบสิ่งต่างๆหรือยารักษาโรคต่างๆ เด็กที่ทำให้ผู้ใหญ่เราทึ่งกับการให้คำตอบแปลกๆแตกต่างออกไปกับคำถามของผู้ใหญ่ หรือเด็กที่แสดงให้เห็นอารมณ์ขันอยู่เสมอนั้น คือเด็กที่กำลังคิดอย่างสร้างสรรค์นั่นเอง
ผู้ใหญ่ต้องช่วยกันส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
ทั้งผู้ปกครองและครูควรร่วมมือกันช่วยให้เด็กได้คิดและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ โดยอนุญาตให้เด็กมีเสรีภาพที่จะทำผิดพลาดและโดยยอมรับในความคิดของเด็กๆ เด็กๆจะสามารถทดลองทำอะไรได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องกลัวผิด หรือกลัวว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ในขอบเขตของจริยธรรมและไม่รบกวนหรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
ถ้าเราจะส่งเสริมให้เด็กแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ เด็กๆก็จะต้องได้รับการส่งเสริมให้มองเห็นปัญหาในหลายๆด้าน ทำให้สามารถให้คำตอบได้หลายคำตอบ มีวิธีการแก้ปัญหาได้หลายวิธี
เด็กต้องมีโอกาส เลือก เด็กที่สามารถเลือกได้จะแสดงให้เห็นว่ามีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเด็กที่มีคนเลือกหรือกำหนดสิ่งต่างๆให้ตลอดเวลา
เด็กต้องได้รับการกระตุ้นให้คิดอย่างสร้างสรรค์ ถ้าสิ่งแวดล้อมเต็มไปด้วยสิ่งที่เด็กๆถูกกระตุ้นให้ใช้ประสาทสัมผัส ทั้ง ๕ เด็กๆก็จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์มากขึ้นการจัดสิ่งแวดล้อมที่มีสิ่งแปลกใหม่ มีความหลากหลายจะ ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กได้อย่างดี
เด็กต้องได้มีเวลาเพียงพอที่จะเล่นและใช้จินตนาการ การเล่นบทบาทสมมติก่อนที่จะทำการแก้ปัญหาจะสามารถชักจูงเด็กให้คิดอย่างสร้างสรรค์มากขึ้น เด็กๆควรมีเสรีภาพที่จะคิดและแสดงบทบาทอย่างอิสระ ปราศจากการชี้นำของผู้ใหญ่ แต่อยู่ในขอบเขตตามที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า เด็กๆควรได้เห็นและมีประสบการณ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆทั้งการกินอยู่ การปฏิบัติตน และเด็กๆควรได้รับการส่งเสริมให้เคารพในสิทธิของผู้อื่นที่จะเลือกทำสิ่งต่างๆ เด็กๆควรจะได้รับการสนับสนุนให้แก้ปัญหาร่วมกันเป็นกลุ่ม โดยสามารถที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี โดยไม่ต้องกลัวผิดกลัวถูกลงโทษหรือกลัวการตอบสนองใดๆ ในทางลบ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวอาจจะเริ่มจากเด็กกับผู้ใหญ่เพียง ๒ คน หรือระหว่างเด็กๆกันเอง ๒-๓ คน แล้วเพิ่มจำนวนผู้ร่วมคิดไปเรื่อยๆได้
การให้การสนับสนุนและกำลังใจเด็ก เมื่อเด็กๆแสดงความสามารถหรือความถนัดต่างๆ เช่น ความสามารถที่จะตั้งคำถามหลายคำถาม มีความจำที่ดี มีทักษะในการเริ่มต้นอ่าน มีทักษะทางด้านศิลปะ หรือความสามารถพิเศษอื่นๆ ผู้ใหญ่ควรสนับสนุนให้เด็กเพิ่มพูนทักษะต่อไป การแสดงความคิดเห็นอย่างจริงใจ และตรงกับความเป็นจริงก็เป็นการให้กำลังใจเด็กเช่นกัน โดยการพูดถึงสิ่งที่เด็กทำอย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมให้เด็กประเมินผลงานของตนเอง ช่วยเสริมสร้างทักษะต่างๆให้เด็กทางอ้อม เป็นต้น ที่สำคัญคือต้องทำให้เด็กรู้สึกดีเกี่ยวกับความสามารถของตนเอง และพอใจภูมิใจในผลงานที่ตนทำเสมอ ผู้ใหญ่ควรจัดสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมที่เด็กไม่รู้สึกว่ามีตำตอบเพียงคำตอบเดียวสำหรับปัญหาทุกปัญหา แต่ผู้ใหญ่ควรส่งเสริมให้เด็กได้เห็นว่ามีวิธีแก้ปัญหาได้หลายวิธี และสนับสนุนให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาอยู่เสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น